วันอังคารที่ 26 มีนาคม พ.ศ. 2556

การแข่งขันกีฬาเยาวชนแห่งชาติ


ประชาสัมพันธ์การแข่งขันกีฬาเยาวชนแห่งชาติ

   ตื่นตา เร้าใจ ลุ้นทุกการแข่งขัน หลากหลายชนิดกีฬา ในการแข่งขันกีฬาเยาวชนแห่งชาติ ครั้งที่ 29 มหาสารคามเกมส์ ระหว่างวันที่ 18 - 29 มีนาคม 2556 ณ.จังหวัดมหาสารคาม

ตัวแทนนักกีฬาสุราฎร์พิทยาเข้าแข่งขันกีฬาเยาวชนแห่งชาติ ครั้งที่ 29  ปรเภทกีฬาเทนนิส จำนวน 3 คน คือ นางสาวกรกนก ตีระกนก ม.6/6 นางสาวนัจนันท์ ชูจิตร ม.4/11และนายธนาพล ใจงาม ม.4/9
ประสบความสำเร็จในประเภททีมหญิงได้รับรางวัลเหรียญเงิน

ประวัติกีฬาว่ายน้ำ

กีฬาว่ายน้ำ (Swimming) ถือเป็นศิลปะอย่างหนึ่ง เพราะมนุษย์สามารถว่ายน้ำได้ตั้งแต่สมัยดึกดำบรรพ์ โดยเฉพาะอย่างยิ่งมนุษย์ที่ตั้งภูมิลำเนาอยู่ตามชายทะเล แม่น้ำ ลำคลอง และที่ราบลุ่มต่างๆ เช่น พวกเอสซีเรีย อียิปต์ กรีก และโรมัน มีการฝึกหัดว่ายน้ำกันมาตั้งแต่ก่อนคริสตกาล เพราะมีผู้พบภาพวาดเกี่ยวกับการว่ายน้ำในถ้ำบนภูเขาแถบทะเลทรายลิบยาน
                     การว่ายน้ำในสมัยนั้นเพียงเพื่อให้สามารถว่ายน้ำข้ามไปยังฝั่งตรงข้ามได้ หรือเมื่อเกิดอุทกภัยน้ำท่วมป่าและที่อยู่อาศัยก็สามารถพาตัวไปในที่น้ำท่วมไม่ถึงได้อย่างปลอดภัย  การว่ายน้ำได้มีวิวัฒนาการมาตั้งแต่สมัยโบราณจนถึงปัจจุบัน แต่มีหลักฐานบันทึกไว้ไม่นานนัก Ralph Thomas ให้ชื่อแบบว่ายน้ำที่มนุษย์ใช้ว่ายกันมาตั้งแต่เดิมว่า ฮิวแมน สโตร์ก (Human stroke) นอกจากนี้พวกชนชาติสลาฟและพวกสแกนดิเนเวียรู้จักการว่ายน้ำอีกแบบหนึ่ง โดยใช้เท้าเคลื่อนไหวในน้ำคล้ายกบว่ายน้ำ หรือที่เรียกว่าฟล็อกคิก (Flogkick) แต่วิธีการเคลื่อนไหวของท่าแบบนี้จะทำให้ว่ายน้ำได้ไม่เร็วนัก
                     การแข่งขันว่ายน้ำครั้งแรกได้จัดขึ้น วูลวิช บาร์ท (Woolwich Baths) ใกล้กับกรุงลอนดอน ประเทศอังกฤษ เมื่อปี พ.ศ. 2416 การแข่งขันครั้งนั้นมีการแข่งขันเพียงแบบเดียวคือ แบบฟรีสไตล์ (Free style) โดยผู้ว่ายน้ำแต่ละคนจะว่ายแบบใดก็ได้ ในการแข่งขันครั้งนี้ J. Arhur Trudgen เป็นผู้ได้รับชัยชนะ โดยเขาได้ว่ายแบบเดียวกับพวกอินเดียแดงในอเมริกาใต้ คือแบบยกแขนกลับเหนือน้ำ ซึ่งเป็นวิธีการว่ายน้ำของเขาได้กลายเป็นแบบที่ได้รับความนิยมมากจนได้ชื่อว่า ท่าว่ายน้ำแบบทรัดเจน (Trudgen stroke)  ประชาชนชาวโลกได้ให้ความสนใจเกี่ยวกับการว่ายน้ำเพิ่มมากขึ้น เมื่อเรือเอก Mathew Webb ได้ว่ายน้ำข้ามช่องแคบอังกฤษจากเมืองโดเวอร์ คาเลียส เมื่อเดือนสิงหาคม พ.ศ. 2418 โดยใช้เวลาทั้งสิ้น 21 ชั่วโมง 45 นาที ด้วยการว่ายแบบกบ (Breast stroke) ข่าวความสำเร็จอันนี้ได้สร้างความพิศวงและตื่นเต้นไปทั่วโลก ต่อมาเด็กชาวอเมริกันชื่อ Gertude Ederle ได้ว่ายน้ำข้ามช่องแคบอังกฤษ เมื่อเดือนสิงหาคม พ.ศ. 2469 ทำเวลาได้ 14 ชั่วโมง 31 นาที โดยว่ายน้ำแบบท่าวัดวา (Crawa stroke) จะเห็นได้ว่าในชั่วระยะเวลา 50 ปี

                      การว่ายน้ำได้วิวัฒนาการก้าวหน้าขึ้นเป็นอย่างมาก ถ้าหากได้พิจารณาถึงเวลาของคนทั้งสองที่ทำได้ แบบและวิธีว่ายน้ำได้รับการปรับปรุงเปลี่ยนแปลงเพื่อให้เกิดความเร็วขึ้นเสมอ ในบรรดานักว่ายน้ำทั่วไปโดยเฉพาะอย่างยิ่งชาวแลนเคเชียร์และออสเตรเลีย ได้ดัดแปลงวิธีว่ายน้ำแบบทรัดเจน ซึ่งก็ได้รับผลดีในเวลาต่อมา กล่าวคือ Barney Kieran ชาวออสเตรเลียและ T. S. Battersby ชาวอังกฤษ ได้ว่ายน้ำแบบที่ปรับปรุงมาจากทรัดเจน เป็นผู้ครองตำแหน่งชนะเลิศของโลกเมื่อปี พ.ศ. 2449-2415 Alex Wickham ชาวเกาะโซโลมอนเป็นผู้ริเริ่มการว่ายน้ำแบบท่าวัดวาและเป็นผู้ครองตำแหน่งชนะเลิศของโลก ระยะทาง 50 หลา เขาได้กล่าวว่าเด็กโซโลมอนทุกคนว่ายน้ำแบบนี้ทั้งนั้น ต่อมาท่าว่ายน้ำแบบวัดวาจึงเป็นที่นิยมฝึกหัดกันโดยทั่วไป กีฬาว่ายน้ำได้จัดเข้าไว้ในการแข่งขันโอลิมปิกเมื่อปี พ.ศ. 2436 และได้จัดการแข่งขันมาจนถึงปัจจุบัน ด้วยเหตุดังกล่าวกีฬาว่ายน้ำก็ได้รับความสนใจจากคนทั่วไป และถือเป็นส่วนหนึ่งของการแข่งขันกีฬาโอลิมปิก มีการพัฒนากีฬาว่ายน้ำให้ก้าวหน้ายิ่งขึ้นเป็นลำดับ โดยมีผู้คิดแบบและประเภทของการว่ายน้ำเพื่อความสนุกสนาน และความตื่นเต้นในการแข่งขันมากขึ้น

ประวัติว่ายน้ำในประเทศไทย
สมาคมว่ายน้ำสมัครเล่นแห่งประเทศไทย ได้จดทะเบียนสมาคมต่อกรมตำรวจเมื่อวันที่ 24 มิถุนายน พ.ศ. 2502 ผู้ดำรงตำแหน่งนายกสมาคมว่ายน้ำฯคนแรกคือ พลเรือโท สวัสดิ์ ภูติอนันต์ ร.น. ในปีเดียวกันนี้สมาคมว่ายน้ำฯได้เข้าเป็นสมาชิกของสหพันธ์ว่ายน้ำนานาชาติ
ในปี พ.ศ. 2504 รัฐบาลได้อนุมัติเงินงบประมาณจำนวน 10 ล้านบาท เพื่อก่อสร้างสระว่ายน้ำมาตรฐานขนาดความยาว 50 เมตร กว้าง 25 เมตร พร้อมทั้งที่กระโดดน้ำ และอัฒจันทร์คนดูจำนวน 5,000 ที่นั่ง ณ บริเวณสนามกีฬาแห่งชาติ และเปิดใช้ในการแข่งขัน เมื่อวันที่ 25 เมษายน พ.ศ. 2506 เรียกว่า สระว่ายน้ำโอลิมปิก (ปัจจุบันได้เปลี่ยนชื่อเป็นสระว่ายน้ำวิสุทธารามย์) และสมาคมว่ายน้ำฯได้สมัครเข้าเป็นสมาชิกของสหพันธ์ว่ายน้ำแห่งเอเชียในปี พ.ศ. 2509
ปัจจุบันกีฬาว่ายน้ำได้รับความสนใจจากประชาชนโดยทั่วไปอย่างกว้างขาวง ประกอบกับกระทรวงศึกษาธิการได้บรรจุกีฬาว่ายน้ำไว้ในหลักสูตรเกือบทุกระดับ โดยในปัจจุบันมีจำนวนสโมสรที่เป็นสมาชิกของสมาคมว่ายน้ำสมัครเล่นแห่งประเทศไทยถึง 56 สโมสร

ที่มา : ประวัติกีฬาว่ายน้ำ

วันจันทร์ที่ 25 มีนาคม พ.ศ. 2556

ภาพที่ประทับใจ

จบกันไปแล้วก็กลับมาเยี่ยมกันบ้างนะ ด้วยความห่วงใยและรักเสมอ

ครูพลศึกษาร่วมใจอบรม

  ในแต่ละวันเราควรจะรับประทานอาหารให้ครบทั้ง 5 สี เพื่อให้ร่างกายได้รับวิตามิน แร่ธาตุ และสารอาหารอย่างครบถ้วน แต่ทราบกันไหมคะ ว่าเหล่าอาหารโซนพืชผักบางชนิด มีประโยชน์ที่มากกว่านั้น แถมเป็นประโยชน์ที่คนอยากผอมทุกคนจะต้องกระดี๊กระด๊าเป็นพิเศษอีกต่างหาก ไปดูกันเลยดีกว่าค่ะ ว่าอะไรจะช่วยให้คุณลดน้ำหนักได้เร็วขึ้นบ้าง

 กะหล่ำปลี


          กะหล่ำปลี เป็นผักใบเขียวที่มีโปรตีนเทียบเท่ากับเนื้อสัตว์และเต้าหู้ แถมยังอุดมไปด้วยไฟเบอร์ วิตามินซี โฟเลท และแมงกานีส ซึ่งจะช่วยให้ร่างกายดูดซับสารอาหารได้เร็วขึ้น และลดความอยากของหวานได้อีกด้วย

 อะโวคาโด

          ในอะโวคาโดมีทั้งไฟเบอร์ โพแทสเซียม วิตามินอี และกรดโฟลิก ซึ่งล้วนมีประโยชน์ต่อร่างกาย จากผลการศึกษาของ CDC พบว่า คนที่รับประทานอะโวคาโดเป็นประจำ จะลดน้ำหนักได้มากกว่าคนที่ลดการรับประทานน้ำตาล นอกจากนี้ คนที่รับประทานอะโวคาโดบ่อย ๆ ยังจะมีน้ำหนักและรอบเอวที่น้อยกว่าคนที่ไม่ค่อยรับประทานอีกด้วย แต่ถ้าคุณเป็นอีกคนที่รับไม่ได้กับรสชาติจืด ๆ ของอะโวคาโดล่ะก็ แนะนำให้คุณนำไปปั่นเป็นสมูทตี้แทนการรับประทานสด ๆ ไม่แน่ว่าคุณอาจจะติดใจกับรสชาติก็ได้ค่ะ



 เมล็ดทานตะวัน

          เมล็ดทานตะวันเมล็ดเล็ก ๆ นี่ล่ะค่ะ มีประโยชน์อย่างมากมาย เพราะอุดมไปด้วยแร่ธาตุ เช่น ฟอสฟอรัส เหล็ก แมกนีเซียม และสังกะสี นอกจากนี้ ในเมล็ดทานตะวันยังมีสารแอนตี้ออกซิแดนท์ และยังช่วยลดโอกาสเสี่ยงเป็นโรคหัวใจได้อีกด้วย รู้อย่างนี้แล้ว พกเมล็ดทานตะวันอบแห้งติดโต๊ะทำงานไว้สิคะ เอาไว้ทานเป็นของว่าง ที่นอกจากจะได้ความอร่อยเและเพลิดเพลินแล้ว ยังจะช่วยควบคุมความอยากอาหาร ไม่ให้คุณทานมากเกินไปอีกด้วยค่ะ

 พริกหยวก

          ผลการวิจัยชี้ว่า คนที่รับวิตามินซีไม่เพียงพอต่อร่างกาย จะมีโอกาสอ้วนมากกว่าคนที่รับประทานวิตามินซีเป็นประจำ ซึ่งพริกหยวกเป็นผักชนิดหนึ่งที่มีวิตามินซีอยู่มาก และช่วยให้ร่างกายดูดซับธาตุเหล็กได้ดีขึ้น เพราะฉะนั้น ถ้าอยากลดน้ำหนักได้เร็ว ๆ ก็รับประทานพริกหยวกให้มากขึ้นสิคะ คุณอาจจะใส่พริกหยวกลงไปในผัดผัก สลัด หรือยำต่าง ๆ ก็ได้ค่ะ



 มะนาว

          นอกจากจะใช้ปรุงรสเปรี้ยวให้อาหารแล้ว มะนาวยังเป็นตัวช่วยหนึ่งที่ทำให้เราสามารถลดน้ำหนักได้เร็วขึ้นอีกด้วย แถมเรายังสามารถใช้มะนาวเป็นส่วนประกอบในอาหารได้หลากหลาย เช่น ใส่ในเครื่องดื่มได้ทุกประเภท เพิ่มรสชาติให้อาหารจานต่าง ๆ ซึ่งนอกจากจะช่วยในเรื่องการลดน้ำหนักแล้ว กรดซีตริกในมะนาวยังสามารถช่วยลดอาการไอ และรักษาอาการเจ็บคอได้อีกด้วยค่ะ มีประโยชน์สุดจี๊ดขนาดนี้ ก็อย่าลืมรับประทานกันเยอะ ๆ นะคะ

          ยิ่งอ้วน โรคก็ยิ่งรุมเร้า เพราะฉะนั้นหากอยากมีสุขภาพที่ดีและแข็งแรง เราก็ควรจะเริ่มต้นด้วยการควบคุมน้ำหนักไม่ให้เกินมาตรฐาน และหมั่นออกกำลังกายเป็นประจำ เพื่อคุณภาพชีวิตที่ดีกว่านะคะ

ที่มา : อยากลดน้ำหนักได้เร็วขึ้น อย่าพลาดผัก-ผลไม้พวกนี้นะจ๊ะ